หลักการและวัตถุประสงค์:  การเตรียมเลือดเพื่อผ่าตัดแบบปกติ ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในขั้นตอนการเตรียมเลือด รายงานของคลังเลือดในช่วงเวลา 12 เดือน พบว่าอัตราส่วนของการเตรียมเลือดก่อนผ่าตัดกับการใช้เลือดจริง

(C/T ratio) ไม่เหมาะสม คิดเป็น 2.08 (62,300/29,893 ยูนิต) วัตถุประสงค์ครั้งนี้เพื่อศึกษาความคุ้มค่าในการเตรียมเลือดเพื่อการผ่าตัดศัลยกรรมข้อเข่าและข้อสะโพกกรณีไม่เร่งด่วน

วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาแบบย้อนหลัง โดยเก็บข้อมูลการเตรียมเลือดเพื่อการผ่าตัดและใช้เลือดจริงในผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมข้อเข่าและข้อสะโพก ในวันผ่าตัดจนถึง 1 วันหลังผ่าตัด ณ.โรงพยาบาลศรีนครินทร์ โดยคัดผู้ป่วยที่ได้รับเลือดก่อนวันผ่าตัดออกจากการศึกษา ทำการศึกษาในระยะเวลา 12 เดือน โดยศึกษาค่า C/T ratio (อัตราการเตรียม: การใช้เลือด) และตัวชี้วัดความคุ้มค่า (transfusion probability; %T และ transfusion index; Ti) และค่าใช้จ่ายในการเตรียมเลือดเพื่อการผ่าตัด

ผลการศึกษา: มีผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมข้อเข่าและข้อสะโพกจำนวน  170 ราย มีการเตรียมเลือดเพื่อการผ่าตัดจำนวน 303 ยูนิต  สำหรับผู้ป่วย 169 ราย   แต่มีการใช้เลือดจริงเพียง 75 ยูนิต สำหรับผู้ป่วย 56 ราย คิดเป็นค่า C/T ratio เท่ากับ 4.04 ค่า %T และ ค่า Ti เท่ากับ 33.14 และ 0.44 ตามลำดับ และมีค่าใช้จ่ายจากการเตรียมเลือดเพื่อการผ่าตัด 81,810 บาท แต่มีการใช้จริง 20,250 บาท  

สรุป: การศึกษาครั้งนี้พบว่ามีการเตรียมเลือดเพื่อการผ่าตัดศัลยกรรมข้อเข่าและข้อสะโพกมากเกินความจำเป็นและไม่ควรใช้การเตรียมเลือดด้วยวิธีปกติ (routine cross-match)

คำสำคัญ: การเตรียมเลือดเพื่อการผ่าตัดด้วยวิธีปกติ, การผ่าตัดศัลยกรรมข้อเข่าและข้อสะโพกกรณีไม่เร่งด่วน

Background and objective :  Routine cross-matched blood preparation preoperatively without transfusion leads to a costly waste of resources. A 12-month report from our blood bank demonstrated an inappropriate use of preoperative blood order with the blood cross-match to transfusion (C/T) ratio of 2.08 (62,300/29,893 units).  This study aim to determine the efficiency of blood ordering in elective knee and hip surgery before implementation of a blood order guideline.

Methods: Consecutive elective knee and hip surgery from January to December 2011 were identified retrospectively using an electronic management information system of Srinagarind hospital. Patients transfused pre-operatively were excluded. Pre-operative cross-match status and blood transfusion data for each patient were identified using medical and anesthetic records. Cross-match to transfusion (C/T) ratio and blood usage parameters (transfusion probability; %T and transfusion index; Ti) was calculated.

Results: There were 170 patients who underwent elective knee and hip surgery. They had preparing blood for surgery 303 units for patients with 169 cases. Only 75 units in 56 patients had been transfused. Transfusion utilization indices, C/T ratio equal to 4.04 % T and Ti were 33.14 and 0.44 Total cost for the cross-matching process is 81,810 baht, but it is actually used 20,250 baht.

Conclusion: This study shows the over-ordering blood for elective knee and hip surgery and cannot justify performing a routine pre-operative cross-match.