|
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจต่อบริการด้านวิสัญญีของพยาบาลวิชาชีพในหอผู้ป่วย โรงพยาบาลศรีนครินทร์
วิธีการศึกษา ใช้วิธีสุ่มตัวอย่างเลือกแบบเฉพาะเจาะจงจากพยาบาลวิชาชีพในหอผู้ป่วยทุกแผนก จำนวน 200 คน ถูก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามระดับความพึงพอใจต่อบริการด้านวิสัญญีซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง หลังจากหาความเที่ยงโดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟา (Alpha-Coefficient) ของ Chronbach ได้เท่ากับ 0.92 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD)
ผลการศึกษา ความพึงพอใจของพยาบาลวิชาชีพในหอผู้ป่วยต่อบริการวิสัญญี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก(3.03 + 0.36) แบ่งตามด้านต่างๆดังนี้ ด้านบริหาร (2.72 + 0.50) ด้านบริการ (3.30 + 0.46) ด้านวิชาการ ความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (2.90 + 0.45) ด้านมนุษยสัมพันธ์และการติดต่อสื่อสาร (3.22 + 0.46) ซึ่งทั้งสี่ด้านมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก การแสดงความคิดเห็นต่อคำถามปลายเปิดเกี่ยวกับความต้องการและความคาดหวังต่อบริการด้านวิสัญญี ได้แก่ ต้องการให้มีการติดต่อสื่อสารที่สะดวกรวดเร็วทั้งในเวลาและนอกเวลาราชการ มีการแก้ปัญหาที่รวดเร็ว บุคลากรวิสัญญีมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อพยาบาลวิชาชีพและบุคลากรในหอผู้ป่วย มีการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ความรู้ด้านวิสัญญีวิทยา มีการจัดอบรมให้ความรู้กับบุคลากรในหอผู้ป่วย เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการระงับความรู้สึกได้อย่างเหมาะสมและสามารถเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือพิเศษได้อย่างถูกต้อง ส่วนปัญหาที่พบได้แก่ ปัญหาการส่งต่อการดูแลผู้ป่วยไม่ชัดเจน การไม่ติดป้ายชื่อ ไม่แนะนำตัวกับพยาบาลที่หอผู้ป่วย และการจัดอบรมเผยแพร่ความรู้ด้านวิสัญญีวิทยายังไม่เพียงพอ
สรุป ความพึงพอใจต่อบริการด้านวิสัญญีของพยาบาลวิชาชีพในหอผู้ป่วยโรงพยาบาลศรีนครินทร์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และพยาบาลวิชาชีพในหอผู้ป่วยยังมีความต้องการและคาดหวังต่อการบริการด้านวิสัญญีให้มีการติดต่อประสานงานได้สะดวกรวดเร็ว มีการประชาสัมพันธ์ จัดอบรมเผยแพร่ความรู้ด้านวิสัญญีวิทยา และมีสัมพันธภาพที่ดีต่อบุคคลากรในหอผู้ป่วย ซึ่งแสดงว่าการบริการด้านวิสัญญี ยังต้องมีการปรับปรุงพัฒนาต่อไป เพื่อให้ผู้รับบริการมีความพึงพอใจมากยิ่งขึ้น
คำสำคัญ : บริการวิสัญญี, ความพึงพอใจ, พยาบาลวิชาชีพ
Objective : To assess the level of satisfaction among all registered nurse(RNs) (excluding anesthetic nurses) with the provision of anesthetic service at Srinagarind Hospital, Khon Kaen University,Thailand.
Materials and Medthods : Using purposive sampling, we selected 200 RNs from all wards at Srinagarind Hospital. Questionnaires comprised of three parts: Part 1 - demographic and work place data; Part 2 - level of satisfaction among ward RNs vis-à-vis the provision of anesthetic service with focuses on: a) administration ,b) service , c) knowledge, and d) personnel; and Part 3 -2 open- ended questions. The reliability was 0.92.The data were analyzed by percentage , mean and standard deviation.
Results: The satisfaction among RNs from all of the wards vis-à-vis the provision of anesthetic service was high, namely: a) administration 2.72 + 0.50; b) service 3.30 + 0.46; c) knowledge 2.90 + 0.45; and d) personnel 3.22 + 0.46. The open-ended questions indicated that RNs expected better communications and relationship amongst all of the members of the anesthetic team. They felt that the distributing of knowledge about anesthesiology was inadequate and would like to be better informed before serving postoperative patients.
Conclusion: Overall RNs-satisfaction with anesthetic service in all wards was high (3.03 + 0.36). RNs valued good communications among the whole team and would like to be informed about each patients anesthesiology needs. In so doing, the RNs believed the delivery of anesthetic service would improve.
Keywords: anesthetic service; registered nurse; satisfaction . . .
Full text.
|
