ช่วงของการประเมิน |
คะแนนVAS |
Mean |
SD |
ก่อนพูดคุย |
37.54 |
31.45 |
หลังพูดคุย |
31.63 |
28.53 |
หลังดูวีดิทัศน์ |
28.57 |
28.10 |
ก่อนผ่าตัด |
39.01 |
31.42 |
ตารางที่ 3 การเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย VAS ในระหว่างช่วงเวลาต่างๆ
เปรียบเทียบ
ช่วงเวลา |
ค่าเฉลี่ย |
VAS ก่อนพูดคุย |
VAS หลังพูดคุย |
VAS หลังดูวีดิทัศน์ |
37.54 |
31.63 |
28.57 |
VAS ก่อนพูดคุย |
37.54 |
|
|
|
VAS หลังพูดคุย |
31.63 |
5.91**
(t=5.295) (p=0.000) |
|
|
VAS หลังดูวีดิทัศน์ |
28.57 |
8.97**
(t=5.655) (p=0.000) |
3.05**
(t=3.273) (p=0.001) |
|
VAS ก่อนผ่าตัด |
39.01 |
-1.48
(t=0.850) (p=0.396) |
-7.39**
(t=4.821) (p=0.000) |
-10.44**
(t=6.083) (p=0.000) |
หลังจากได้รับชมวีดิทัศน์ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการระงับความรู้สึกการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดขั้นตอนการระงับความรู้สึกภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ พบว่า ผู้ป่วยมีระดับความกังวล (VAS หลังดูวีดิทัศน์) ลดลงจากเดิมและอยู่ในระดับต่ำ (ค่าเฉลี่ย =28.57, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 28.10) และลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับระดับความกังวลทั้งในช่วงก่อนการประเมินก่อนการระงับความรู้สึก (VAS ก่อนพูดคุย) และระดับความกังวลหลังพูดคุย (VAS หลังพูดคุย) ( p<0.01)
ในวันที่มาผ่าตัดพบว่า ผู้ป่วยมีความกังวลก่อนการผ่าตัด (VAS ก่อนผ่าตัด) เพิ่มมากขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับต่ำ (ค่าเฉลี่ย =39.01, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 31.42) เมื่อเปรียบเทียบกับระดับความกังวลก่อนการประเมินก่อนการระงับความรู้สึก (VAS ก่อนพูดคุย) พบว่า ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
กลุ่มตัวอย่างเพศหญิงจะมีระดับความกังวลสูงกว่าเพศชายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p <0.05 ในทุกๆ ช่วงเวลา (ตารางที่ 4)
ในทุกๆ ช่วงเวลา ผู้ป่วยที่ไม่เคยผ่านการระงับความรู้สึกมาก่อนจะมีระดับความกังวลสูงกว่าผู้ป่วยที่เคยผ่านการระงับความรู้สึก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p<0.05 (ตารางที่ 5)
ตารางที่ 4 เปรียบเทียบความกังวลในช่วงเวลาต่าง ๆ โดยจำแนกตามเพศ
VAS ในช่วงเวลาต่างๆ |
เพศ |
N |
Mean |
SD |
t |
p |
ก่อนพูดคุย |
ชาย |
87 |
30.69 |
27.19 |
2.811* |
0.005 |
|
หญิง |
116 |
42.67 |
33.50 |
|
|
หลังพูดคุย |
ชาย |
87 |
26.44 |
25.92 |
2.267* |
0.024 |
|
หญิง |
116 |
35.52 |
29.85 |
|
|
หลังดูวีดิทัศน์ |
ชาย |
87 |
23.79 |
25.21 |
2.166* |
0.031 |
|
หญิง |
116 |
32.16 |
29.69 |
|
|
ก่อนผ่าตัด |
ชาย |
87 |
32.64 |
29.03 |
2.576* |
0.011 |
|
หญิง |
116 |
43.79 |
32.40 |
|
|
ตารางที่ 5 เปรียบเทียบความกังวลในช่วงเวลาต่าง ๆ โดยจำแนกตามการเคยผ่านการระงับความรู้สึก
ช่วงเวลาที่ทดลอง |
การเคยดมยาสลบ |
N |
Mean |
SD |
t |
p |
ก่อนพูดคุย |
เคย |
112 |
29.29 |
30.16 |
4.325* |
0.000 |
|
ไม่เคย |
91 |
47.69 |
30.15 |
|
|
หลังพูดคุย |
เคย |
112 |
24.91 |
27.05 |
3.846* |
0.000 |
|
ไม่เคย |
91 |
39.89 |
28.26 |
|
|
หลังดูวีดิทัศน์ |
เคย |
112 |
20.89 |
24.44 |
4.436* |
0.000 |
|
ไม่เคย |
91 |
38.02 |
29.52 |
|
|
ก่อนผ่าตัด |
เคย |
112 |
30.71 |
29.58 |
4.358* |
0.000 |
|
ไม่เคย |
91 |
49.23 |
30.74 |
|
|
วิจารณ์
ขั้นตอนการะงับความรู้สึกประกอบด้วย 3 ช่วงคือ ช่วงก่อน ระหว่าง และหลังการระงับความรู้สึก ซึ่งแต่ละช่วงมีความสำคัญพอๆ กัน เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยจึงควรเตรียมผู้ป่วยให้พร้อมเพื่อรับการระงับความรู้สึก ในช่วงก่อนการระงับความรู้สึกเป็นการประเมินผู้ป่วยก่อนระงับความรู้สึก ให้คำแนะนำถึงการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดและการระงับความรู้สึก อธิบายถึงขั้นตอน ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ของการระงับความรู้สึก รวมทั้งการตอบปัญหา ข้อสงสัยของผู้ป่วย รวมถึงการลงนามยินยอมให้ระงับความรู้สึก จากการศึกษาของ Jawaid และคณะ3 พบว่า ผู้ป่วยก่อนการระงับความรู้สึกจะมีความกลัวกังวลในหลายๆ เรื่อง เช่น เป็นห่วงครอบครัวภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นผลของการผ่าตัด และความเจ็บปวดหลังผ่าตัด การอธิบายเกี่ยวกับการผ่าตัดและการระงับความรู้สึกช่วยลดความกังวลได้ดังนั้นการประเมินก่อนการระงับความรู้สึกจึงมีประโยชน์นอกจากจะลดความกังวลยังเพิ่มความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการระงับความรู้สึก17-19และเพิ่มความพึงพอใจอีกด้วย11, 17, 18
ความกังวลก่อนการผ่าตัดและระงับความรู้สึกเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยพบได้ถึงร้อยละ 6220โดยมีการศึกษาและคิดหาวิธีในการจัดการกับความกังวลหลายวิธี เช่น การอธิบายพูดคุยก่อนการระงับความรู้สึก(การวางยาสลบ)3, 17การแจกแผ่นพับให้ความรู้17 การนวด21 การใช้อโรมาเธราปี21, 22 การใช้ดนตรี5-8 และวีดิทัศน์ ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีการศึกษาเปรียบเทียบกับวิธีอื่นๆ แล้วได้ผลดี11, 19, 23-25
จากการศึกษานี้พบว่า ผู้ป่วยมีระดับความกังวลเฉลี่ยก่อนการประเมินก่อนการระงับความรู้สึก (VAS ก่อนพูดคุย) มากกว่าระดับความกังวลเฉลี่ยหลังการประเมินก่อนการระงับความรู้สึก (VAS หลังพูดคุย) อย่างมีนัยสำคัญ การประเมินก่อนการระงับความรู้สึกโดยการพูดคุยกับทีมวิสัญญีสามารถลดความกังวลของผู้ป่วย ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาของ Jawaid และคณะ3และ Synder-Ramos17 พบว่าการให้ความรู้เกี่ยวกับการระงับความรู้สึก และการประเมินก่อนการระงับความรู้สึกสามารถลดความกังวลและผู้ป่วยมีความรู้เพิ่มมากขึ้นด้วย ผู้ป่วยมีโอกาสทำความเข้าใจและเปิดโอกาสให้ซักถามเกี่ยวกับการระงับความรู้สึก ทำให้ผู้ป่วยหายสงสัยคลายกังวล และระดับความกังวลจึงลดลง
หลังจากผู้ป่วยรับชมวีดิทัศน์ และวัดระดับความกังวลพบว่า ระดับความกังวลเฉลี่ยหลังดูวีดิทัศน์ (VAS หลังดูวีดิทัศน์) มีค่าน้อยกว่าระดับความกังวลเฉลี่ยก่อนและหลังการประเมินก่อนการระงับความรู้สึก (VAS ก่อนพูดคุยและ VAS หลังพูดคุย) อย่างมีนัยสำคัญ วีดิทัศน์สามารถลดความกังวลของผู้ป่วยได้ โดยผู้ป่วยที่มีความสงสัยเกี่ยวกับการระงับความรู้สึกว่าต้องทำอะไรบ้าง หรือจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ป่วย เมื่อดูวีดิทัศน์แล้วมีความเข้าใจในการระงับความรู้สึกมากขึ้น เห็นภาพชัดเจน ทำให้คลายกังวลได้ วีดิทัศน์จึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความกังวลของผู้ป่วยนอกเหนือจากการพูดคุยตามปกติ
ความสัมพันธ์ของ เพศ อายุ การศึกษา และประสบการณ์การเคยผ่านการระงับความรู้สึก กับระดับความกังวลก่อนการระงับความรู้สึก จากการศึกษาพบว่า เพศหญิงมีความกังวลมากกว่าชาย อายุยิ่งมากขึ้นความกังวลจะมีแนวโน้มลดลง แต่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติผู้ป่วยในระดับการศึกษาที่ต่างกันจะมีระดับความกังวลในแต่ละระดับการศึกษาลดลง แต่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และผู้ป่วยที่ไม่เคยผ่านการระงับความรู้สึกมาก่อนจะมีความกังวลมากกว่าผู้ป่วยที่เคยมีประสบการณ์ผ่านการระงับความรู้สึกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
จากหลายการศึกษาก่อนหน้านี้ พบว่า เพศหญิงมีความกังวลมากกว่าเพศชาย3, 11, 20 อายุยิ่งมากความกังวลก็จะลดลง11, 20 ยิ่งการศึกษาสูงความกังวลจะน้อยกว่า20 ผู้ที่เคยผ่านการผ่าตัดมาแล้วจะมีความกังวลน้อยกว่า20 ซึ่งเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับการศึกษาครั้งนี้ ดังนั้นผู้ป่วยหญิง อายุน้อย และไม่เคยผ่านการระงับความรู้สึกจึงเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ทีมวิสัญญีต้องให้การดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากจะมีความกังวลมากกว่ากลุ่มอื่นๆ
ในวันที่ผ่าตัดได้สอบถามระดับความกังวลอีกครั้ง ปรากฏว่าระดับความกังวลก่อนการผ่าตัดสูงมากกว่าระดับความกังวลก่อนการประเมินก่อนการระงับความรู้สึก อาจเนื่องมาจากการวัดระดับความกังวลก่อนการผ่าตัดนั้นได้ถามก่อนเข้าห้องผ่าตัดหรือในห้องผ่าตัดซึ่งใกล้เวลาจะทำการผ่าตัดแล้ว ทำให้กระชั้นชิดเกินไป ความกังวลจึงเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าช่วงการประเมินก่อนการระงับความรู้สึกสอดคล้องกับการศึกษาของ Jlalaและคณะ25พบว่า ระดับความกังวลก่อนการผ่าตัดจะเพิ่มขึ้นมากกว่าระดับความกังวลในช่วงประเมินการก่อนการระงับความรู้สึก แต่ในกลุ่มที่ดูวีดิทัศน์จะมีระดับความกังวลน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ดู
นอกจากความกังวลเกี่ยวกับการระงับความรู้สึกแล้ว ผู้ป่วยยังมีความกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดร่วมด้วยจากการศึกษาของ Jawaid3 พบว่าผู้ป่วยมีระดับความกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัด (57.65 ± 25.1) มากกว่าการระงับความรู้สึก (38.14 ± 26.05) ซึ่งในระหว่างพูดคุยแนะนำเกี่ยวกับการระงับความรู้สึก ผู้ป่วยจะมีคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับการผ่าตัดร่วมด้วย ซึ่งระดับความกังวลที่วัดในการศึกษานี้วัดระดับความกังวลโดยรวม ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นความกังวลเกี่ยวกับการระงับความรู้สึก ดังนั้นค่าระดับความกังวลที่ได้หลังจากพูดคุยและดูวีดิทัศน์อาจจะสูงกว่าปกติได้ เนื่องจากความกังวล และความสงสัยเกี่ยวกับการผ่าตัดยังไม่ได้รับคำตอบและคำอธิบายที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นการประเมินการก่อนผ่าตัดและการระงับความรู้สึกควรทำร่วมกันทั้งสองแผนก โดยจัดทำเป็นคลินิกประเมินก่อนการผ่าตัดและการระงับความรู้สึก เพื่อให้ครบวงจรและผู้ป่วยหมดข้อสงสัยในทุกๆด้านและคลายกังวลด้วย
เนื้อหาและภาพประกอบในวีดิทัศน์แสดงถึงการเตรียมตัวขั้นตอน และภาวะแทรกซ้อนของการระงับความรู้สึกซึ่งแสดงโดยคนจริง ซึ่งบางภาพอาจน่ากลัวสำหรับผู้ป่วยบางคน เช่น ภาพการใส่ท่อช่วยหายใจ การแทงเข็มบล็อกหลัง ซึ่งผู้ป่วยบางคนกลัวไม่กล้าที่จะดูและมีความกลัวและความกังวลเพิ่มมากขึ้น ต้องมีการอธิบายเพิ่มเติมเพื่อตอบข้อสงสัย แต่สำหรับผู้ป่วยบางคนมีความสนใจอยากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตนเองบ้าง เมื่อได้รับชมวีดิทัศน์ความกังวลจะลดลงและไม่มีข้อสงสัย ดังนั้นการประเมินก่อนการระงับความรู้สึกจึงจำเป็นต้องพิจารณาเลือกวิธีการให้เหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละคน
จุดอ่อนและข้อเสนอแนะ
เนื้อหาให้วีดิทัศน์ส่วนใหญ่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการระงับความรู้สึก จะไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการรักษาและการผ่าตัด หรือการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด จึงควรจัดทำแนวทางการปฏิบัติงานในการประเมินก่อนการระงับความรู้สึก (โดยแผนกวิสัญญี) ร่วมกับการประเมินก่อนการผ่าตัด (แผนกศัลยกรรม) เพื่อผู้ป่วยจะได้มีความรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดและการระงับความรู้สึก เพิ่มความรู้และลดความกังวลของผู้ป่วย โดยจัดตั้งในรูปแบบของคลินิกก่อนการผ่าตัดและระงับความรู้สึก
การศึกษานี้ไม่ได้หาสาเหตุของความกังวลของผู้ป่วยว่ามีความกังวลเรื่องใด เช่น การผ่าตัด การรักษา ผลข้างเคียงจากการผ่าตัด การระงับความรู้สึก หรือเรื่องอื่นๆ ทำให้การศึกษาโดยใช้วีดีทัศน์มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการระงับความรู้สึกเพียงอย่างเดียวเพื่อลดความกังวล อาจไม่ได้ลดความกังวลของผู้ป่วยอย่างตรงจุดอาจมีการศึกษาเพิ่มเติมถึงสาเหตุของความกังวล เพื่อลดความกังวลได้อย่างตรงจุด
วีดิทัศน์มีภาพประกอบการทำหัตการที่ดูน่ากลัวเกินไปสำหรับผู้ป่วยบางคน เช่น การใส่ท่อช่วยหายใจ การบล็อกหลัง จึงอาจหลีกเลี่ยงในผู้ป่วยที่มีความกังวลสูง หรืออาจใช้ภาพประกอบอื่นเช่นภาพวาดประกอบการทำหัตถการ หรืออาจเป็นภาพการ์ตูนผู้ป่วยเด็กอาจปรับปรุงรูปแบบให้น่าสนใจมากขึ้น เช่น จัดทำวีดิทัศน์ในรูปแบบการ์ตูนมีเนื้อหาและภาพที่มีสีสันที่เหมาะสำหรับเด็ก
เนื้อหาของวีดิทัศน์นานเกินไป (8 นาที 13 วินาที) เมื่อรวมกับขั้นตอนอื่นๆ ของการประเมินก่อนการระงับความรู้สึก (การพูดคุย ซักประวัติ ตรวจร่างกาย อธิบาย และตอบปัญหาเกี่ยวกับการระงับความรู้สึก) จะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ20-30นาทีต่อผู้ป่วยหนึ่งรายส่งผลกระทบต่อเวลาในการทำงานในส่วนอื่นๆของแผนกวิสัญญีได้จึงแนะนำให้จัดทำวีดิทัศน์ที่สั้นลง และกระชับมากขึ้น
สรุป
การประเมินก่อนการระงับความรู้สึกโดยใช้วีดิทัศน์ร่วมด้วยสามารถลดความกังวลในช่วงการประเมินก่อนการระงับความรู้สึกทั้งในช่วงหลังจากพูดคุยกับแผนกวิสัญญีและหลังจากดูวีดิทัศน์ แต่ไม่สามารถช่วยลดความกังวลก่อนการผ่าตัดได้การประเมินก่อนการระงับความรู้สึกโดยการพูดคุยซักถามกับแผนกวิสัญญีเป็นวิธีปฏิบัติทั่วไปในการประเมินก่อนการระงับความรู้สึก การดูวีดิทัศน์เป็นวิธีหนึ่งที่นำมาใช้ร่วมด้วย ซึ่งจากการศึกษานี้และอีกหลายๆการศึกษายืนยันได้ว่า การใช้วีดิทัศน์ร่วมด้วยสามารถลดความกังวลได้
เอกสารอ้างอิง
- Hashimoto Y, Baba S, Koh H, Takagi H, Ishihara H, Matsuki A. Anxiolytic effect of pre-operative showing of anesthesia video for surgical patients. Masui 1993; 42: 6116.
- Jlala HA, French JL, Hardman JG, Bedforth NM. Anesthesiologists perception of patients anxiety under regional anesthesia. Local and Regional Anesthesia 2010; 3: 6571.
- Jawaid M, Mushtaq A, Mukhtar S, Khan Z. Preoperative anxiety before elective surgery.Neurosciences (Riyadh) 2007; 12: 145-8.
- Johnston M. Pre-operative emotional states and post-operative recovery. AdvPsvchosom Med 1986; 15: 1-22.
- Bechtold ML, Perez RA, Puli SR, Marshall JB. Effect of music on patients undergoing outpatient colonoscopy. World J Gastroentero 2006; 12: 730912.
- Labrague LJ. Influence of Music on Preoperative Anxiety and Physiologic Parameters in Women Undergoing Gynecologic Surgery. JClinNurs Res 2014; 25: 157-73.
- Ni CH. Minimising preoperative anxiety with music for day surgery patients - a randomised clinical trial. J ClinNurs 2012; 21: 620-5.
8. Cooke M. The effect of music on preoperative anxiety in day surgery. J AdvNurs 2005; 52: 47-55.
- Hughes S. The effects of giving patients preoperative information. Nurs Stand 2002; 16: 337.
- Kiyohara LY. Surgery information reduces anxiety in the pre-operative period. Rev HospClínFac Med S Paulo 2004; 59: 51-6.
- Ayral X, Gicquere C, Duhalde A, Boucheny D, Dougados M. Effects of Video Information on Preoperative Anxiety Level and Tolerability of Joint Lavage in Knee Osteoarthritis. Arthritis Rheum 2002; 47: 380-2.
- Klopfenstein CE, Forster A, Van Gessel E. Anesthetic assessment in an outpatient consultation clinic reduces preoperative anxiety. Can J Anaesth 2000; 47: 511-5.
- Ehsan-ul-Haq M. Role of pre-anaesthesia outpatient clinic in reducing pre-operative anxiety. J Coll Physicians Surg Pak 2004; 14: 202-4.
14. Kindler CH. The visual analog scale allows effective measurement of preoperative anxiety and detection of patients' anesthetic concerns. AnesthAnalg 2000; 90: 706-12.
15. Romanik W, Kański A, Soluch P, Szymańska O. Preoperative anxiety assessed by questionnaires and patient declarations. Anestezjol Intens Ter 2009; 41: 94-9.
16. Boker A.The Amsterdam preoperative anxiety and information scale provides a simple and reliable measure of preoperative anxiety.Can J Anaesth 2002; 49: 792-8.
- Snyder-Ramos SA. Patient Satisfaction and Information Gain After the Preanesthetic Visit: A Comparison of Face-to-Face Interview, Brochure, and Video. AnesthAnalg 2005; 100: 17538.
- Pager CK. Randomised controlled trial of preoperative information to improve satisfaction with cataract surgery.Br J Ophthalmol 2005; 89: 10-3.
19. Salzwedel C, Petersen C, Blanc I, Koch U, Goetz AE, Schuster M.The effect of detailed, video-assisted anesthesia risk education on patient anxiety and the duration of the preanesthetic interview: a randomized controlled trial. Anesth Analg 2008; 106: 202-9.
20. Jafar MF, Khan FA. Frequency of preoperative anxiety in Pakistani surgical patients.J Pak Med Assoc 2009; 59: 359-63.
21. Norred CL. Minimizing preoperative anxiety with alternative caring-healing therapies. AORN J 2000; 72: 838-43.
22. Ni C-H, Hou W-H, Kao C-C, Chang M-L, Yu L-H, Wu C-C, et al. The anxiolytic effect of aromatherapy on patients awaiting ambulatory surgery: a randomized controlled trial. Evid Based Complement Alternat [Internet]. 2013 [cited Oct 15, 2014]; 2013:[about 5 p.]. Available from:http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3877597/pdf/ECAM2013-927419.pdf
23. Luck A, Pearson S, Maddern G, Hewett P. Effects of video information on precolonoscopy anxiety and knowledge: a randomized trial. Lancet 1999; 354: 20325.
24. Herrmann KS, Kreuzer H. A randomized prospective study on anxiety reduction by preparatory disclosure with and without video film show about a planned heart catheterization. EurHeart J 1989; 10: 7537.
- Jlala HA, French JL, Foxall GL, Hardman JG, Bedforth NM.Effect of preoperative multimedia information on perioperative anxiety in patients undergoing procedures under regional anaesthesia.Br J Anaesth 2010; 104: 369-74.