เมื่อตรวจด้วย color Doppler US พบว่า vascularity ของ gynecomastia เพิ่มขึ้น ทั้ง arterial และ venous flow ใน Tanner stage สูงๆคือ III, IV และ V โดย vascularity ที่เพิ่มขึ้น พบส่วนใหญ่บริเวณใต้ต่อลานนม และพบบริเวณด้านข้างของลานนมเป็นอันดับรองลงไป
2. Male breast carcinoma
มะเร็งเต้านมในเพศชาย พบได้น้อยประมาณ 1 % ของมะเร็งเต้านมทั้งหมด หรือประมาณ 0.2 % ของมะเร็งทุกชนิดในเพศชาย มักพบในผู้ป่วยอายุมากกกว่า 60 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่พบเป็น ductal carcinoma แต่สามารถพบ lobular carcinoma ได้เช่นกัน 1
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งเต้านมในเพศชายคือ ผู้ที่เป็น Klinefelters syndrome, มีญาติสายตรงที่เป็นมะเร็งเต้านมโดยเฉพาะเพศชาย, อายุมาก, อัณฑะลงถุงอัณฑะเพียงข้างเดียว, การได้รับบาดเจ็บของอัณฑะ, มีประวัติได้รับรังสีหรือสนามแม่เหล็กไฟฟ้า, โรคอ้วน
Mammographic findings of male breast carcinoma 1, 2, 8-14
มะเร็งเต้านมในเพศชาย จะพบลักษณะเหมือนกับที่พบในเพศหญิง คือ อาจพบก้อนที่มีขอบเรียบคล้าย benign lesion หรือ อาจพบก้อนที่มี lobulation หรือ spiculation ดังนั้น เมื่อพบก้อนในเต้านมเพศชายจากเอกซเรย์เต้านมจึงควรพึงระลึกไว้เสมอว่า ก้อนที่เห็นนั้นเป็นมะเร็งหรือไม่
Microcalcification มักพบได้น้อยกว่ามะเร็งเต้านมในเพศหญิง แต่ลักษณะ calcification ที่ดู benign อย่างที่พบในเพศหญิง อาจแสดงถึง malignant ในเพศชายได้
เนื่องจากเนื้อเต้านมในเพศชาย ส่วนมากพบอยู่บริเวณใต้หัวนม ต่างจากเพศหญิงที่มักพบอยู่ด้านบนและด้านนอกมากกกว่าส่วนอื่นๆ ดังนั้น มะเร็งเต้านมในเพศชาย จึงมักเกิดบริเวณใต้หัวนม แต่จะพบอยู่ค่อนไปด้านข้าง ( eccentric ) ต่างจาก gynecomastia ที่จะพบอยู่ตรงกลางใต้ต่อหัวนม ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น (รูปที่ 7)

Images 7 reprinted with permission of the American Institute for Radiologic Pathology
รูปที่ 7 เอกซเรย์เต้านมของมะเร็งเต้านมในเพศชาย เห็น spiculated soft tissue density nodule ที่อยู่ ด้านข้างต่อหัวนม
Ultrasonographic findings of male breast carcinoma 1, 2, 9-11, 17, 18
ลักษณะที่สามารถตรวจพบโดย ultrasound ของมะเร็งเต้านมในเพศชาย จะเหมือนกับที่ตรวจพบในมะเร็งเต้านมในผู้หญิง คือ เห็นลักษณะ irregular hypoechoic mass ที่อาจพบ acoustic shadow หรือ posterior enhancement
บางครั้ง อาจเห็นเป็น heterogeneous hypoechoic mass หรือ อาจพบลักษณะ complex cyst ร่วมกับ nipple discharge ดังที่มีรายงานในผู้ป่วย ductal carcinoma in situ ( DCIS ) 11
Metastatic carcinoma 1, 19
มะเร็งที่กระจายมาจากที่อื่นมายังเต้านมสามารถพบได้น้อยมาก ในเพศชายจะพบกระจายมาจากมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งปอดได้บ่อยกว่ามะเร็งที่อื่นๆ
ลักษณะที่เห็นจากเอกซเรย์เต้านมอาจเป็นก้อนเดียว หรือ หลายก้อน ลักษณะของก้อนอาจมีขอบเขตชัดเจนหรือ lobulated ไม่สามารถแยกจาก primary breast carcinoma ได้ แต่มักแยกจาก gynecomastia ได้
3. Other benign condition
3.1 Diabetic mastopathy
พบได้น้อยมาก Susan P. Weinstein และคณะ20 รายงานผู้ป่วยชายที่มีภาวะ long-standing insulin-dependent diabetes mellitus และมีก้อนของเต้านม จากการตรวจด้วย เอกซเรย์เต้านมและอัลตราซาวด์พบลักษณะเหมือนกับที่ตรวจพบใน gynecomastia โดยที่ยังไม่ทราบกลไกการเกิดที่แน่นอนแต่สันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับ autoimmune reaction
3.2 Lipoma
อาจพบ lipoma เป็น lucent nodule ที่มี thin radiopaque capsule ซึ่งบางครั้งอาจมองเห็นได้ยาก เนื่องจากถูกบดบังโดยเนื้อเยื่อไขมันของเต้านมที่อยู่รอบๆ
Fat necrosis อาจเห็นได้หลายแบบ ตั้งแต่ lucent nodule ไปจนถึง irregular, spiculated soft tissue density mass สามารถพบ calcification แบบ ring-like, annular หรือ branching อยู่ในก้อนร่วมด้วย13
3.3 Epidermal inclusion cyst
มักพบลักษณะ round, well-circumscribed, dense soft tissue mass ขนาดตั้งแต่ 1-5 ซม. หากมีภาวะ cyst ruptured ร่วมด้วย จะเกิด inflammatory reaction รอบๆก้อน ทำให้มองเห็นของก้อนไม่ชัดเจนจาก เอกซเรย์เต้านมจึงอาจไม่สามารถแยกจากก้อนมะเร็งได้จากการเอกซเรย์เต้านมเพียงอย่างเดียว13
3.4 Subcutaneous leiomyoma
พบลักษณะ spiculated margin mass ที่มี localized skin thickening และ retraction แต่จากรายงานของ Alan H. Appelbaum และคณะ13 และ Nakamura S. และคณะ21 พบ leiomyoma เกิดในหัวนม ทำให้เกิดหัวนมมีขนาดโตขึ้นเพียงอย่างเดียว
3.5 Subareolar abscess
เป็นรอยโรคแบบเรื้อรังที่พบการโป่งพองของท่อน้ำนมร่วมด้วย Alan H. Appelbaum และคณะ13 รายงานผู้ป่วย 2 รายที่ได้รับการวินิจฉับ subareolar abscess โดยรายแรก พบลักษณะ nodule with indistinct border ที่มี punctate calcification ข้างใน ส่วนอีกรายพบ discrete mass ที่มี radiating strands จากหัวนม และมีผิวหนังด้านบนหนาตัวร่วมด้วย
3.6 Lymph node
ลักษณะ benign lymph node ในเต้านมคือ well-defined nodule in upper outer quadrant with lucent center or hilar notch หากไม่พบ lucent center ของไขมัน หรือ hilar notch ต่อมน้ำเหลืองนั้นอาจมี malignant potential13
นอกจากนั้น สามารถพบ benign lesion อื่นๆเช่น cyst, hematoma,papilloma หรือ fibroadenoma ในเต้านมเพศชายได้เช่นกัน แต่มีโอกาสพบได้น้อยมาก
การตรวจคัดกรองเต้านมในเพศชาย 2
เนื่องจากโอกาสเกิดมะเร็งเต้านมในเพศชายพบน้อยมาก การทำ mammogram เพื่อคัดกรองจึงยังไม่มีความจำเป็น
แต่อาจพิจารณาทำในรายที่มีปัจจัยเสี่ยง ดังนี้
1. ผู้ที่มีประวัติมีญาติสายตรงโดยเฉพาะเพศชายที่เป็นมะเร็งเต้านม
2. ผู้ที่มี gene mutation
สรุป
โรคของเต้านมในเพศชาย ถึงแม้จะพบได้น้อยแต่ส่งผลทางจิตใจและความเป็นอยู่ของผู้ป่วยได้มาก การวินิจฉัยแยกความผิดปกติที่พบได้บ่อยที่สุดคือ gynecomastia และ มะเร็งซึ่งพบเป็นอันดับรองลงมาออกจากกันนับเป็นสิ่งที่จำเป็นเนื่องจากทั้ง 2 ภาวะมีแนวทางในการรักษาที่แตกต่างกัน และเนื่องจากการตรวจร่างกายแต่เพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถแยก gynecomastia และ มะเร็งออกจากกันได้ การตรวจวินิจฉัยด้วย mammogram ร่วมกับ ultrasound จึงเป็นวิธีที่ดีในการช่วยแยกภาวะดังกล่าวออกจากกันโดยอาศัยสิ่งตรวจพบที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละภาวะ
เนื่องจาก คุณสมบัติในการสร้างภาพสิ่งตรวจพบของรอยโรคจากทั้ง 2 วิธีแตกต่างกัน แต่สามารถใช้เสริมกันเพื่อเพิ่มความแม่นยำของการตรวจพบรอยโรคและให้การวินิจฉัย จึงควรใช้ทั้ง 2 วิธีร่วมกันในการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยโรคของเต้านมในเพศชายเพื่อความถูกต้องแม่นยำ ซึ่งจะส่งผลให้การวางแผนการรักษามีประสิทธิภาพและได้ผลดีที่สุด
กิติกรรมประกาศ
ขอขอบคุณ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่สนับสนุนการเขียนและอนุญาตให้เผยแพร่บทความ, อาจารย์ แพทย์หญิง ดร.ศิรินาถ ตงศิริ ที่ช่วยให้คำแนะนำและตรวจทานการเขียนบทความ, นาย ณัฐพงษ์ วงษ์วรรณ บรรณารักษ์ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ช่วยให้คำแนะนำในการค้นและจัดเตรียมเอกสารอ้างอิง, ขอขอบคุณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม ที่อนุญาตให้สืบค้นข้อมูลของผู้ป่วยเพื่อนำมาประกอบในบทความ และ ขอขอบคุณ Dr. Leonard M. Glassman และ the American Institute for Radiologic Pathology ที่อนุญาตให้นำภาพ mammogram บางส่วนมาใช้ในบทความ
เอกสารอ้างอิง
1. มาลัย มุตารักษ์. The Male Breast. ใน: มาลัย มุตารักษ์, บรรณาธิการ. Breast Imaging and Intervention. พิมพ์ครั้งที่ 2.เชียงใหม่: เวียงพิงค์การพิมพ์, 2533: 226-38.
2. Kopans DB. The male breast. In: Kopans DB, editor. Breast imaging. Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins, 2007: 671-90.
3. Giodarno SH , Cohen DS, Buzdae AU, Perkins G, Hortobagyi GN. Breast carcinoma in men: a population-based study. Cancer 2004;101:51-7.
4. de Luis DA, Aller R, Cuellar LA, Terroba C, Romero E. Anabolic steroids and gynecomastia. Review of the literature. An Med Interna 2001;18:489-91.
5. Tiwari AK. Lavender and tea-tree oil-induced gynecomastoia in prepubertal boys warrants prudent use of herbal products. Curr Sci 2007;93:287.
6. Henley DV, Lipson N, Korach KS, Bloch CA. Prepubertal gynecomastia linked to lavender and tea tree oils. N Eng J Med 2007;356:479-85.
7. Mark R Allee. Gynecomastia. 2011. Available from : http://emedicine.medscape.com/article/120858-overview.[cited 2012 Jan 15].
8. Muttarak M. Clinics in diagnostic imaging. Singapore Med J 2003;44:433-7.
9. Gunhan-Bilgen I, Bozakaya H, Ustun EE, Memis A. Male breast disease: clinical, mammographic, and ultrasonographic features. Euro Radiol 2002;43:246-55.
10. Chen L, Chantra PK, Larsen LH, Barton P, Rohitopakarn M, Zhu EQ. Imaging characteristics of malignant lesions of the male breast. Radiographics 2006;26:993-1006.
11. Hittmair AP, Lininger RA, Tavassoli FA. Ductal carcinoma In situ ( DCIS ) in the male breast: a morphologic study of 84 cases of pure DCIS and 30 cases of DCIS associated with invasive carcinoma - a preliminary report. Cancer 1998;83:2139-49.
12. Chantra PK,So GJ, Wollman JS, Bassett LW. Mammography of the male breast. AJR Am J R oentgenol 1995;164:853-8.
13. Appelbaum AH, EvansGF, Levy KR, Amirkhan RH, Schumpert TD. Mammographic appearance of male breast disease. Radiographics 1999;19:559-68.
14. Dershaw DD, Borgen PI, Deutch BM, Liberman L. Mammographic findings in men with breast cancer. AJR Am J R Roentgenol 1993;160:267-70.
15. Ramadan SU, Gokharman D, Kosar M, Kosar U. Assessment of vascularity with color doppler ultrasound in gynecomastia. Diagn Interv Radiol. 2010;16:38-44. Epub 9 February 2010.
16. Wigley KD, Thomas JL, Bernardino ME, Rosenbaum JL. Sonography of gynecomastia. AJR Am J R Roentgenol 1981;136:927-30.
17. Weinstein SP, Conant EF, Orel SG, Zuckerman JA, Bellah R. Spectrum of US findings in pediatric and adolescent patients with palpable breast masses. Radiographics 2000;20:1613-21.
18. Yang VT, Whitman GJ, Yuen EH, Tse GM, Stelling CB. Sonographic features of primary breast cancer in men. AJR Am J R Roentgenol 2001;176:413-6.
19. Muttarak M,Nomonrat A, Chaiwan B. Metastatic carcinoma to the male and female breast. Australas Radiol 1998;42:16-9.
20. Weinstein SP, Conant EF, Orel SG, Lawton TJ, Acs G. Diabetic mastopathy in men: imaging findings in two patients. Radiology 2001;219:797-9.
21. Nakamura S, Hashimoto Y, Takeda K, Nishi K, Ishida-Yamamoto A, Mizumoto T, et al. Two Cases of Male Nipple Leiomyoma: Idiopathic Leiomyoma and Gynecomastia-Associated Leiomyoma. Am J Dermatopathol 2012 ;34:287-91.