ตัวแปร |
กลุ่มทดลอง (n=114) |
กลุ่มควบคุม
(n=114) |
p-value* |
Mean+SD |
Mean+SD |
1. การจัดท่าในการหายใจเข้าออกลึกๆ |
3.99+0.09 |
3.59+0.51 |
< 0.001 |
2.ขั้นตอนการหายใจเข้าออกลึกๆ |
|
|
|
2.1 ตำแหน่งการวางมือ |
3.96+0.21 |
3.00+0.35 |
< 0.001 |
2.2 การหายใจเข้า |
3.96+0.21 |
2.91+0.37 |
< 0.001 |
2.3 การหายใจออก |
3.96+0.21 |
2.91+0.37 |
< 0.001 |
3.จำนวนและระยะเวลาในการปฏิบัติ |
3.39+0.49 |
2.86+0.35 |
< 0.001 |
*independent t-test
วิจารณ์
จากการศึกษาผลการใช้สื่อวีดิทัศน์ เรื่องการฝึกหายใจแบบมีประสิทธิภาพเพื่อเตรียมตัวก่อนได้รับยาระงับความรู้สึกแบบทั้งตัวต่อการฝึกหายใจ พบว่ามีความแตกต่างเรื่องดัชนีมวลกายโดยในกลุ่มที่ได้รับการสอนฝึกหายใจแบบอธิบายตามปกติ มีภาวะอ้วนและอ้วนมาก มากกว่าและมีการฝึกหายใจแบบมีประสิทธิภาพได้ไม่ดีเท่ากับกลุ่มที่ได้รับการสอนฝึกหายใจด้วยสื่อวีดิทัศน์ซึ่งมีน้ำหนักตัวปกติ อธิบายได้ว่าผู้ที่มีภาวะอ้วนและอ้วนมากจะมีการหายใจเอาอากาศเข้าไปในปอดได้ลดลงจากแรงต้านของหน้าท้องที่มีไขมันจับหนา เมื่อหายใจได้น้อยก็จะทำให้ปอดบาง เกิดปอดแฟบได้ง่าย7 ส่งผลให้ผู้ป่วยฝึกหายใจแบบมีประสิทธิภาพได้ไม่ดีเท่ากับผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัวปกติ มีความแตกต่างเรื่องระดับการศึกษาพบว่ากลุ่มที่ได้รับการสอนฝึกหายใจด้วยสื่อวีดิทัศน์มีระดับการศึกษาสูงกว่าและสามารถฝึกหายใจแบบมีประสิทธิภาพได้ดีกว่ากลุ่มที่ได้รับการสอนฝึกหายใจแบบอธิบายตามปกติ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาของอดิศักดิ์ และคณะ8 พบว่าระดับการศึกษาของผู้ปกครองเป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เนื่องจากนักเรียนได้รับอิทธิพลทางความคิดจากผู้ปกครองซึ่งมีเจตคติที่ดีต่อการเรียน นักเรียนจึงมีเจตคติที่ดีไปด้วย ส่งผลให้นักเรียนมีแรงจูงใจในการเรียนต้องการเรียนให้สำเร็จตามความต้องการของผู้ปกครอง นักเรียนจึงมีความรับผิดชอบต่อการเรียนทำให้ผลการเรียนดี และการศึกษาของอาธร และคณะ9 พบว่าการได้รับการฝึกอบรมและการได้รับการนิเทศงานจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำให้พฤติกรรมสุขภาพตามบทสุขบัญญัติแห่งชาติของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านดีขึ้น มีความแตกต่างด้านศาสนาพบว่ากลุ่มที่ได้รับการสอนฝึกหายใจแบบอธิบายตามปกตินับถือศาสนาอิสลามมากกว่าและมีการฝึกหายใจแบบมีประสิทธิภาพได้ไม่ดีเท่ากับกลุ่มที่ได้รับการสอนฝึกหายใจด้วยสื่อวีดิทัศน์ซึ่งอธิบายได้ว่ากลุ่มที่นับถือศาสนาอิสลามส่วนใหญ่ในการศึกษานี้มีระดับการศึกษาน้อยกว่า สื่อสารภาษาไทยได้น้อยและไม่ชัดเจนหรือถูกต้องเท่าที่ควรเวลาถ่ายทอดความรู้หรือการอธิบายคำบางคำอาจไม่เข้าใจได้ นอกจากนี้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสลามร้อยละ 80 นิยมใช้ภาษาพื้นเมืองหรือภาษามลายู เมื่อพูดกันนานเข้าไม่สามารถพูดและฟังภาษาไทยให้เข้าใจได้10 และมีความแตกต่างเรื่องประวัติการผ่าตัดพบว่ากลุ่มที่ได้รับการสอนฝึกหายใจด้วยสื่อวีดิทัศน์ซึ่งมีประวัติการผ่าตัดมามากกว่าสามารถฝึกหายใจแบบมีประสิทธิภาพได้ดีกว่ากลุ่มที่ได้รับการสอนฝึกหายใจแบบอธิบายตามปกติ สอดคล้องกับการศึกษาของParsons และคณะ11 พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจและการให้ข้อมูลนั้นจะสามารถพักหลับได้ดีกว่า สามารถจดจำประสบการณ์ก่อนผ่าตัด ขณะผ่าตัดและหลังผ่าตัดได้มากกว่า มีความต้องการยาระงับความรู้สึก มีอาการอาเจียน การคั่งของปัสสาวะ มีความต้องการยาลดอาการปวดน้อยกว่าและสามารถรับประทานอาหารและกลับบ้านได้เร็วกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับข้อมูลและการเตรียมจิตใจก่อนผ่าตัด
นอกจากนี้พบว่ากลุ่มที่ได้รับการสอนฝึกหายใจด้วยสื่อวีดิทัศน์มีคะแนนการปฏิบัติเรื่อง การฝึกหายใจแบบมีประสิทธิภาพดีกว่ากลุ่มที่ได้รับการสอนฝึกหายใจแบบอธิบายตามปกติ แสดงให้เห็นว่าสื่อวีดิทัศน์มีประโยชน์ต่อการปฏิบัติตัวของผู้ป่วย เนื่องจากเป็นสื่อที่มีทั้งภาพและเสียงประกอบ เป็นสิ่งเร้าที่ผ่านการสัมผัสทางตา และทางหู ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ และจดจำได้ดีขึ้น มีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนและการฝึกอบรมมาก เนื่องจากเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารสูง มีทั้งภาพ สี และเสียงในเวลาเดียวกัน ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี ช่วยแบ่งเบาภาระในการสอนของผู้สอน ช่วยปรับปรุงการเรียนการสอนให้ดีขึ้น การที่ผู้เรียนได้รับภาพและเสียง จากสื่อวีดิทัศน์ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น12-14 ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาหลายการศึกษา พบว่าการสอนด้วยสื่อวีดิทัศน์ทำให้นักศึกษาพยาบาลมีความรู้และมีทักษะการปฏิบัติดีกว่าการสอนโดยวิธีปกติ15-17 การศึกษาของJeste และคณะ18 พบว่าการใช้หลาย ๆ สื่อการศึกษาช่วยทำให้ผู้ป่วยมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการ การดูแล และการตัดสินใจเกี่ยวกับภาวะความเจ็บป่วยของตนเองดีกว่ากลุ่มซึ่งได้รับความรู้แบบปกติ การศึกษาของGrant และคณะ19 พบว่ากลุ่มที่ใช้สื่อวีดิทัศน์ ร่วมกับการให้ความรู้ตามปกติมีทักษะการปฏิบัติการพยาบาลในการดูแลผู้ป่วย เรื่องการทำงานเป็นทีม การดูแลทางเดินหายใจ การแก้ปัญหาต่าง ๆ การบันทึกข้อมูล และการให้ยาผู้ป่วยดีกว่ากลุ่มซึ่งได้รับความรู้เพียงอย่างเดียว
ส่วนที่เป็นจุดด้อยของสื่อ เป็นการสื่อสารแบบทางเดียว เมื่อมีข้อสงสัยไม่สามารถสอบถามได้ ดังนั้นเพื่อให้การสอนด้วยสื่อวีดิทัศน์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควรมีการสอนด้วยสื่อวีดิทัศน์ร่วมกับการอธิบายตามปกติด้วย เพื่อให้กลุ่มตัวอย่างได้มีปฎิสัมพันธ์กับผู้สอน สามารถสอบถามเมื่อมีข้อสงสัย ทำให้การสอนด้วยสื่อวีดิทัศน์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การผลิตชุดการสอนโดยใช้สื่อวีดิทัศน์ เรื่องการฝึกหายใจแบบมีประสิทธิภาพ เพื่อเตรียมตัวก่อนได้รับยาระงับความรู้สึกแบบทั้งตัว จึงเป็นแนวทางการพัฒนากระบวนการให้ความรู้และการฝึกปฏิบัติทางด้านสุขภาพ ส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติได้ถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ข้อเสนอแนะ
1. ควรมีการนำสื่อวีดิทัศน์เรื่องการฝึกหายใจแบบมีประสิทธิภาพไปใช้กับผู้ป่วย ในกลุ่มอื่น ๆ นอกเหนือจากผู้ป่วยที่มารับการผ่าตัด เพื่อประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพตนเอง เช่น ผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องของระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด และผู้ป่วยที่มีภาวะเครียด เป็นต้น
2. เพื่อให้สื่อวีดิทัศน์ เรื่องการฝึกหายใจแบบมีประสิทธิภาพมีประโยชน์สูงสุด และทำให้เกิดความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นในการพัฒนางานแบบยั่งยืน ควรมีการศึกษาต่อยอดโดยการทำวิจัยร่วมกับนักกายภาพบำบัด ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในด้านนี้โดยเฉพาะ
สรุป
การใช้สื่อวีดิทัศน์ เรื่อง การฝึกหายใจแบบมีประสิทธิภาพเพื่อเตรียมตัวก่อนได้รับยาระงับความรู้สึกแบบทั้งตัว มีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยในการเตรียมตัวก่อนมารับการผ่าตัด ทำให้ผู้ป่วยมีการฝึกหายใจแบบมีประสิทธิภาพได้ดีกว่ากลุ่มที่ได้รับฟังการอธิบายตามปกติ ดังนั้นพยาบาลและบุคลากรที่เกี่ยวข้องควรนำสื่อวีดิทัศน์ที่พัฒนานี้ไปใช้ในการปฏิบัติการพยาบาลเพื่อเตรียมตัวผู้ป่วยให้พร้อมสำหรับการผ่าตัด
กิตติกรรมประกาศ
งานวิจัยนี้สำเร็จไปด้วยความเรียบร้อยโดยได้รับการสนับสนุนทุนจากโครงการ Routine to Research (R2R) คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และได้รับความช่วยเหลืออย่างดียิ่งจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิง ภัณฑิลา รุจิโรจน์จินดากุล ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของโครงการ ผู้วิจัยขอขอบคุณผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่าน ที่ได้ตรวจสอบเนื้อหาของเครื่องมือวิจัย และตรวจสอบคุณภาพของสื่อวีดิทัศน์ ขอบคุณหอผู้ป่วยที่ให้ความร่วมมือ และอำนวยความสะดวกในการเก็บข้อมูล และขอบคุณกลุ่มตัวอย่างในการตอบแบบสอบถาม ทำให้งานสำเร็จไปได้ด้วยดี
เอกสารอ้างอิง
1. สุนิสา ฉัตรมงคลชาติ, วิทยา เลิศวิริยะกุล. กายวิภาคและสรีรวิทยาระบบทางเดินหายใจ. ใน:
วิรัตน์ วศินวงศ์, ธวัช ชาญชญานนท์, ศศิกานต์ นิมานรัชต์, ธิดา เอื้อกฤดาธิการ, บรรณาธิการ.
ตำราวิสัญญีวิทยาพื้นฐาน. สงขลา: ชานเมืองการพิมพ์; 2550:48-9.
2. Coussa M, Proietti S, Schnyder P, Frascarolo P, Suter M, Spahn DR, et al. Prevention of
atelectasis formation during the induction of general anesthesia in morbidly obese patients.
Anesth Analg 2004; 98:1491-5.
3. Westerdahl E, Lindmark B, Eriksson T, Hedenstierna G, Tenling A. Deep- breathing exercises
reduce atelectasis and improve pulmonary function after coronary artery bypass surgery.
Chest 2005; 128:3482-8.
4. วุฒิชัย เพิ่มศิริวาณิชย์. กายภาพบำบัดสำหรับผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ.ใน: สุนิสา ฉัตรมงคลชาติ, บรรณาธิการ. การดูแลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจและได้รับการบำบัดด้วยออกซิเจน. สงขลา:
ชานเมืองการพิมพ์; 2547:59-60.
5. สุมาลี งามสอน, มาลินันท์ พิมพิสุทธิพงศ์, สมศักดิ์ ผาปริญญา. ความพึงพอใจของผู้มารับ
บริการต่อการพัฒนางาน 3S ของโรงพยาบาล. ขอนแก่น: โรงพยาบาลพล อำเภอพล จังหวัด
ขอนแก่น, 2540:4-6.
6. บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูล. ระเบียบวิธีการวิจัยทางพยาบาลศาสตร์. กรุงเทพฯ: คณะพยาบาลศาสตร์
จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, 2550.
7. อภิรักษ์ ปานวัฒนวิไชย. โรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากโรคอ้วน. วิชัยยุทธจุลสาร 2549; 33: 34-5.
8. อดิศักดิ์ พงษ์พูลผลศักดิ์, ไพบูลย์ เกียรติโกมล, ปิยะมาศ เจริญพันธุวงศ์. ปัจจัยที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนของรัฐ กรณีศึกษาจังหวัดลพบุรี. วารสารวิจัยและพัฒนา มจธ 2544; 24: 311-26.
9. อาธร อุคคติ, วันชัย ธรรมสัจการ, สุเมธ พรหมอินทร์. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพตามบทบัญญัติแห่งชาติของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดสตูล. สงขลานครินทร์เวชสาร 2551; 26: 527-38.
10. อับดุลสุโก ดินอะ. วัฒนธรรมมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ท่ามกลางความรุนแรง ตอนที่1 [Monograph on the Internet]. 2010 [cited 2012 Feb 26] Available from:http://www.thaingo.org/writer/view.php?id=1525
11. Parsons EC, Kee CC, Gray DP. Perioperative nurse caring behaviors: Perception of surgical patients. AORN J 1993; 57: 1106-14.
12. นที เกื้อกูลกิจการ. การสอนผู้รับบริการในโรงพยาบาล. ภาควิชาการบริหารการศึกษาพยาบาล
และบริหารการพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. สงขลา: ชานเมือง
การพิมพ์, 2541.
13. กิดานันท์ มลิทอง. เทคโนโลยีการศึกษาร่วมสมัย. กรุงเทพฯ: เอดิสันเพรส โพรดักส์, 2536.
14. จิรพรรณ พีรวุฒิ. สื่อการเรียนการสอนทางการพยาบาล. กรุงเทพฯ: โอเอสพริ้นติ้งเฮ้าส์, 2542.
15. ศศิกานต์ กาละ, สุนันทา ยังวนิชเศรษฐ,โสเพ็ญ ชูนวล. ผลของการสอนด้วยสื่อวีดิทัศน์ต่อ
ความรู้และทักษะการปฏิบัติการพยาบาลในห้องคลอดของนักศึกษาพยาบาล. สงขลานครินทร์
เวชสาร 2551; 26: 111-21.
16. กันตพร ยอดไชย, อารีย์วรรณ อ่วมตานี, วิฑูรย์ สังฆรักษ์. ผลการใช้สื่อวีดิทัศน์คาราโอเกะ
เรื่องหลักการพยาบาลผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดต่อความรู้ของนักศึกษาพยาบาล
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. สงขลานครินทร์เวชสาร 2550; 25: 531-6.
17. เยาวรัตน์ มัชฉิม, เอมอร แซ่จิว, วิฑูรย์ สังฆรักษ์. ผลของการสอนโดยใช้สื่อวีดิทัศน์เรื่อง
การช่วยแพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจผู้ป่วยผู้ใหญ่ต่อความรู้และความพึงพอใจในการเรียนของนักศึกษาพยาบาล[วิทยานิพนธ์]. สงขลานครินทร์: มหาวิทยาลัย, 2547.
18. Jeste DV, Dunn LB, Folsom DP, Zisook D. Multimedia education aids for improving
consumer knowledge about illness management and treatment decisions. J Psychiatr Res 2008;
42:1-21.
19. Grant JS, Moss J, Epps C, Watt P. Using video-facilitated feedback to improve student
performance following high-fidelity simulation. J ecns 2010; 6:177-84.