ในผู้รับบริการที่มีความเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง หากมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดร่วมด้วย เช่น สูบบุหรี่ ระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติ เส้นรอบเอวมากกว่าหรือเท่ากับ 32 นิ้ว (หญิง) หรือ 36 นิ้ว (ชาย) จะทำให้ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดใน 10 ปีข้างหน้าอาจสูงถึงร้อยละ 1516 ดังนั้นข้อแนะนำที่ต้องให้ในประชาชนกลุ่มนี้คือ ควรควบคุมอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักตัว ตรวจวัดความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ7,16 ซึ่งร้านยาน่าจะได้มีอีกบทบาทหนึ่งในการแบ่งเบาภาระของสถานบริการสุขภาพของรัฐด้วยการให้คำแนะนำ และการคอยติดตามวัดความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดแก่ผู้ป่วยได้
สรุป
การให้เภสัชกรในร้านยาทำหน้าที่คัดกรองหาผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงและให้คำแนะนำเพื่อการปรับพฤติกรรมในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง ตลอดจนการส่งต่อผู้ป่วยไปพบแพทย์ เป็นบทบาทใหม่ของร้านยาในประเทศไทย ซึ่งโครงการนำร่องนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเภสัชกรในบทบาทดังกล่าว แต่ยังคงต้องพัฒนาวิธีดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงต่าง ๆ ภายใต้โครงการให้ดีขึ้น ซึ่งหากพัฒนาและดำเนินการได้ในวงกว้างจะเพิ่มความครอบคลุมของการคัดกรองตามนโยบายของ สปสช.ได้เป็นอย่างดี และการให้ร้านยาส่งต่อผู้ป่วยไปพบแพทย์จะทำให้ร้านยาเป็นส่วนหนึ่งของระบบการส่งต่อ (referral system) ในระบบบริการสุขภาพได้
กิตติกรรมประกาศ
ผู้วิจัยขอขอบคุณกลุ่มตัวอย่างผู้รับบริการคัดกรอง ศูนย์แพทย์เครือข่ายโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ทั้ง 3 แห่ง เภสัชกรร้านยาคุณภาพทั้ง 7 ร้าน ตลอดจนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนการวิจัย
เอกสารอ้างอิง
1. Wild S, Roglic G, Green A, Sicree R, King H. Global prevalence of diabetes: estimates for the year 2000 and projections for 2030. Diabetes Care 2004; 27: 1047-53.
2. Kearney PM, Whelton M, Reynolds K, Muntner P, Whelton PK, He J. Global burden of hypertension: analysis of worldwide data. Lancet 2005; 365: 217-23.
3. สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. ข้อมูลจำนวนและอัตราป่วย-ตายจากโรคเบาหวาน/โรคความดันโลหิตสูง. [Online]. 2007. [cited July 20, 2009]; Available from: URL: http://ncd.ddc.moph.go.th/ncd%20web1/Cncd/bureauncd.htm
4. ชูชัย ศรชำนิ, สรกิจ ภาคีชีพ. การบริหารจัดการโรคเรื้อรัง โรคค่าใช้จ่ายสูงอย่างองค์รวม ด้วยจิตใจความเป็นมนุษย์ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า. นนทบุรี: สำนักงานหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ; 2550.
5. นวรัตน์ เพ็ชรเจริญ, สาลินี เซ็นเสถียร. รายงานผลการสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อและการบาดเจ็บ พ.ศ.2550. นนทบุรี: สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2551.
6. สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. แบบบันทึกการตรวจคัดกรองความเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ฉบับ พ.ศ. 2551. [Online]. 2008. [cited July 20, 2009]; Available from: URL: http://ucapps.nhso.go.th/allpp/FrmAllPpScreening.jsp.
7. Aekplakorn W, Bunnag P, Woodward M, Sritara P, Cheepudomwit S, Yamwong S, et al. A risk score for predicting incident diabetes in the Thai population. Diabetes Care 2006; 29: 1872-7.
8. ปรีดา แต้อารักษ์, ปาณบดี เอกะจัมปะกะ, สุทธิสารณ์ วัฒนมะโน, รุจิรา ทวีรัตน์, จุฑามาศ โมฬี, และสุรศักดิ์ อธิคมานนท์. ข้อเสนอการพัฒนาระบบบริการสุขภาพระดับต้นของไทยในการปฏิรูประบบสุขภาพแห่งชาติและใน (ร่าง) พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ. นนทบุรี : สำนักงานนโยบายและแผนสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข; 2543.
9. Diabetes Federation of Ireland. Diabetes Care; Securing the future. Report of the Diabetes Service Development Group. [Online]. 2002. [cited July 20, 2009]; Available from: URL: http://www.diabetes.ie/WebSite/Downloadcenterfiles/dsdg%20report.pdf
10. Chaturvedi N. The burden of diabetes and its complications: trends and implications for intervention. Diabetes Res Clin Pract 2007; 76: S3-12.
11. Hadley J. Insurance coverage, medical care use, and short-term health changes following an unintentional injury or the onset of a chronic condition. JAMA 2007; 297: 1073-84.
12. นิตยา ภัทรกรรม, ศรีเพ็ญ สวัสดิมงคล, จำเริญ บุณยรังษี, ศิริพร ธนพรชัยสิทธิ์, ชนิกานต์ สมบุญตนนท์, ชัยศักดิ์ สุรสิทธิ์ และคณะ. รายงานประจำปี 2551. นนทบุรี: สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2551.
13. Aekplakorn W, Abbott-Klafter J, Khonputsa P, Tatsanavivat P, Chongsuvivatwong V, Chariyalertsak S, et al. Prevalence and management of prehypertension and hypertension by geographic regions of Thailand: the Third National Health Examination Survey, 2004. J Hypertens 2008; 26: 191-8.
14. Aekplakorn W, Stolk RP, Neal B, Suriyawongpaisal P, Chongsuvivatwong V, Cheepudomwit S, et al. The prevalence and management of diabetes in Thai adults: the international collaborative study of cardiovascular disease in Asia. Diabetes Care 2003; 26: 2758-63.
15. เยาวรัตน์ ปรปักษ์ขาม, พรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์. การสำรวจสภาวะสุขภาพอนามัยของประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 3 พ.ศ. 2546-2547. นนทบุรี : สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข; 2549.
16. Mancia G, De Backer G, Dominiczak A, Cifkova R, Fagard R, Germano G, et al. 2007 Guidelines for the Management of Arterial Hypertension: The Task Force for the Management of Arterial Hypertension of the European Society of Hypertension (ESH) and of the European Society of Cardiology (ESC). J Hypertens 2007; 25: 1105-87.